องค์การอนามัยโลกหรือ WHO กำหนดให้พฤติกรรมติดการพนันเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง เพราะคนที่ติดพนันนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำลงไปเป็นสิ่งที่อาจส่งผลเสียต่อตนเองและคนอื่น เช่น เสียเงิน เสียการงานหรือการเรียน เสียสุขภาพ หรือเสียความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด แต่ก็อดพนันไม่ได้ คล้ายคนติดเหล้า หรือสารเสพติดอื่น ๆ อาการสำคัญ คือ มีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ ใจจดจ่ออยู่กับการพนันตลอดเวลา ไม่สามารถคิด หรือทำอย่างอื่น โหยหาแต่การพนัน และควบคุมตัวเองไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องพนัน ซึ่งต้องได้รับการบำบัดรักษา ในรายที่มีอาการมากอาจต้องให้ยาเพื่อลดการย้ำคิดย้ำทำ
ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน รายงานว่า 1 ใน 5 ของผู้พนันในปี 2564 ประเมินตนเองว่า “ติดพนัน” คือ เล่นมาก เล่นบ่อย เล่นต่อเนื่อง เลิกไม่ได้ จนก่อให้เกิดปัญหา ในจำนวนนี้เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงและเป็นกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ รวมกันแล้วกว่า 1 ล้านคน
ประเภทของการพนันที่เป็นสาเหตุของการติดพนัน โดยส่วนใหญ่เป็นการพนันที่มีลักษณะเข้ม (hard gambling) คือ เข้าถึงได้ง่าย เล่นได้บ่อย ๆ เกือบตลอดเวลา จึงเปิดโอกาสให้แก้มือได้แทบจะทันทีทันใด โดยไม่ยั้งคิด เช่น พนันออนไลน์ จำพวกบาคาร่า สล็อต พนันทายผลฟุตบอล รวมทั้งหวยรายวันต่าง ๆ ขณะที่การพนันกลุ่มทายผลตัวเลข อย่างหวยใต้ดินและสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่บางฝ่ายจัดว่าเป็นการพนันอย่างอ่อน (soft gambling) ที่มีความถี่ในการพนันไม่มาก ทิ้งช่วงเวลาถึงสองสัปดาห์ถึงจะสามารถแก้มือได้ แต่ด้วยเหตุที่มีการเล่นพนันอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนาน จาก 5 ปีไปจนถึงมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ทำให้เป็นสาเหตุให้เกิดการติดพนันได้เช่นกัน