คลัสเตอร์วงพนัน บททดสอบรัฐบาล



จากกรณีมีข่าวรายวัน ผีพนันไม่หวั่น “การระบาดโควิด-19” ที่ปรากฏการลักลอบเล่นพนันบ่อนวิ่งโผล่ขึ้นตามจังหวัดในภูมิภาคทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ “คลัสเตอร์วงพนัน” แพร่กระจายเชื้อเป็นวงกว้างอยู่ในขณะนี้

คลัสเตอร์วงพนัน : บททดสอบรัฐบาล

จากกรณีมีข่าวรายวัน ผีพนันไม่หวั่น “การระบาดโควิด-19” ที่ปรากฏการลักลอบเล่นพนันบ่อนวิ่งโผล่ขึ้นตามจังหวัดในภูมิภาคทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ “คลัสเตอร์วงพนัน” แพร่กระจายเชื้อเป็นวงกว้างอยู่ในขณะนี้

"ธนากร คมกฤส" เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน มองว่า พฤติกรรมลักลอบเล่นพนันปรากฏพบ “กลุ่มเสี่ยงโชคชื่นชอบสรวลเสเฮฮา” พยายามดิ้นรนเล่นพนันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แม้มีคณะกรรมการปราบปรามบ่อนฯ ก็ทำได้ไม่ทั้งหมด เพราะต้องอาศัยแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ท้องที่ดำเนินการอย่างจริงจังด้วย

 

บ่อนขนาดใหญ่หายไปจริง บ่อนขนาดเล็กผุดมากขึ้น

ยอมรับว่า “บ่อนขนาดใหญ่หายไป” ส่วนใหญ่ถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ท้องที่ให้ต้องปิดชั่วคราว อันเกิดจาก “รัฐบาล” ไม่ยอมให้ทุกพื้นที่มีบ่อนพนันเด็ดขาด แต่การลักลอบเล่นพนันขนาดเล็กก็ยังคงเกิดขึ้นมีอยู่เช่นเดิม “เสมือนบีบลูกโป่งขนาดใหญ่ย่อมมีลูกเล็กผุดโผล่ขึ้น” ได้อยู่เสมอ

เมื่อมี “การลักลอบเล่นพนัน” ย่อมทำให้ “ผู้คนมากหน้าหลายตา” นัดเจอกันสรวลเสเฮฮา ทั้งการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และพูดคุยสัมผัสใกล้ชิดกันอยู่ตลอดเวลา และการลักลอบเล่นกันมักมีลักษณะเป็นพื้นที่ปิดลับหูลับตาคน กลายเป็น “แหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี” ส่งผลให้เป็นจุดเสี่ยงสูงแพร่กระจายโควิด-19 ได้ง่ายรวดเร็ว

เชื่อว่า “การลักลอบเล่นพนัน” มีตัวเลขเท่าเดิมอันเกิดจาก “นโยบายห้ามมีเด็ดขาด” ทั้งในสภาวะเช่นนี้การลักลอบเล่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “ไม่มีการลักลอบเล่นพนัน” โดยสิ้นเชิงได้

 

บ่อนชายแดนปรับรูปแบบเป็นบ่อนออนไลน์ เจาะตลาดคนรุ่นใหม่

สิ่งที่น่าจับตาในสถานการณ์โรคระบาดนี้ปรากฏว่า “บ่อนชายแดนปรับรูปแบบเป็นบ่อนออนไลน์” ในการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้เข้าเล่นให้ง่ายขึ้น ดังนั้นตั้งแต่ปีที่แล้วมี “บ่อนออนไลน์” เกิดขึ้นเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ อันเป็นการเปิดตลาดหาลูกค้าหน้าใหม่ เพื่อชดเชยรายได้ของเจ้ามือพนันขาดหายไป

ส่วนใหญ่ “กลุ่มนักพนันออนไลน์ คือคนรุ่นใหม่” มีวิถีชีวิตสมัยใหม่ในวัยทำงานแล้วช่วง 10-20 ปีแรก และกลุ่มเยาวชน ตั้งแต่นักเรียนมัธยมศึกษาที่มีทักษะการใช้อินเตอร์เน็ตได้

สอดคล้องกับงานวิจัย 2-3 เล่มที่พบว่า ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 70% มองเห็นโฆษณาการพนันออนไลน์ ในจำนวนนี้ 30% ตามเข้าไปดูเว็บไซต์ และอีก 10% กลายเป็นผู้เล่นหน้าใหม่

ดังนั้น “บ่อนพนันออนไลน์” มิใช่เปิดรองรับ “นักพนันบ่อนถาวร” ที่จะย้ายเข้าสู่ “เล่นพนันออนไลน์” เพราะอุปนิสัยชื่นชอบบรรยากาศคนพลุกพล่านสังสรรค์เฮฮาให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินมากกว่านั่งเล่นคนเดียว โดยเฉพาะ “กลัวถูกโกง” เพราะแม้ “เล่นกันในบ่อน” สถานที่จริงยังมีการโกงกันเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ

ก่อนหน้านี้เคยเสนอ “นายกรัฐมนตรี” ตั้งศูนย์อำนวยการจัดการปัญหาพนัน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นกลไกแก้ปัญหานี้อันมี “อำนาจบทบาทเชิง แอ็กชัน” ตรวจสอบปราบปราม กำกับ ชี้นำผู้ปฏิบัติ และเสนอแผนแก้ปัญหาระยะยาว เพราะการใช้กลไก คกก.สอบสวนฯอย่างเดียว ไม่อาจทำให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้

 

บททดสอบรัฐบาลบ่อนทำลายประเทศ

ตอกย้ำว่า “การลักลอบเล่นพนันยุคโควิด-19” กำลังเป็นบททดสอบ “รัฐบาล” ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะมิเช่นนั้น “การลักลอบเปิดเล่นพนัน” จะย้อนกลับมาทำลาย “รัฐบาล เศรษฐกิจและสังคม” โดยเฉพาะ “พนันออนไลน์” กำลังเป็นความท้าทายใหม่ในมาตรการป้องกันให้ชัดเจนกว่านี้

 

จับตาการพนันอุบัติใหม่

เพราะอนาคตอันใกล้นี้ “ทั่วโลก” ต้องเผชิญ “การพนันอุบัติใหม่” ในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกออนไลน์มากมายแน่นอน